หน้าแรก

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

10 ที่เที่ยวเมืองสุพรรณ มาที่เดียวเหมือนเที่ยวเมืองไทย

พาเที่ยวเมืองสุพรรณบุรี  เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ไม่ต้องไปไหนไกล มาเที่ยวสุพรรณบุรีจังหวัดเดียว ก็ได้ชม ได้เห็น และได้สัมผัสเหมือนไปถึงถิ่นเลยทีเดียว
1.แห่เทียนพรรษาสุพรรณบุรี จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ช่วงวันเข้าพรรษา นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความสวยงามของต้นเทียน พร้อมทั้งขบวนแห่อันยิ่งใหญ่ตระการตาของแต่ละอำเภอ และต่อจากนั้นก็จะนำเทียนที่แกะสลักไปถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาให้แก่วัดต่างๆ ต่อไป
2.ตลาดเก่าร้อยปีสามชุก ถวิลหาอดีตความทรงจำ ที่ตลาดแห่งนี้เคยเนืองแน่นด้วยผู้คน และยังคงเสน่ห์ของคนสุพรรณบุรี พ่อค้าแม่ขายใจดี ของกินชิมฟรีได้ทั้งตลาด
3.ชมทุ่งดอกกระเจียวบาน ณ ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง อำเภออู่ทอง ชมดอกกระเจียวหลากหลายสีและสายพันธุ์ในรูปแบบสวนภูเขาป่า และตระการตากับปทุมมาหลากหลายสายพันธุ์ พบกับการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับความรู้ทางวิชาการเกษตร
4.SUPHANBURI MUSIC FESTIVAL เทศกาลเมืองดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกแห่งภาคกลาง สุพรรณบุรี มิวสิค เฟสติวัล มีทัพศิลปินหลากหลายแนวเพลง ป็อป ร็อค อินดี้ อมตะลูกทุ่ง ลูกทุ่งร่วมสมัย รวมไปถึงศิลปินในกลุ่มอาเซี่ยน เพื่ออีกเป็นทางเลือกของคนรักในเสียงดนตรี และชื่นชอบเทศกาลดนตรี
5. ประเพณียกธงสงกรานต์ ณ วัดหนองกระทุ่ม ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษตามความเชื่อที่ว่าประเพณีแห่และยกธงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะทำให้มีความสุขความเจริญ มีความอุดมสมบูรณ์ในทุกๆ เรื่อง
6.บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ที่อำเภอเดิมบางนางบวช มีจุดที่น่าสนใจมากมาย อาทิ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บ่อจระเข้ สัตว์ป่าหายาก อุทยานผักพื้นบ้าน ฯลฯ
7.ทุ่งทานตะวันสุพรรณบุรี ณ ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง (สวนสวรรค์สุพรรณบุรี) ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวตลอด ทั้งปี
8.ป่าสนสองใบแห่งเดียวในภาคกลาง อยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง โดยปกติแล้วสนสองใบเป็นต้นไม้ดึกดำบรรพ์ ที่มักจะเกิดในที่สูงๆ ส่วนมากจะพบในภาคเหนือและอีสาน แต่ที่นี่เป็นเพียงแห่งเดียว ที่มีสนสองใบเกิดขึ้นในภาคกลาง
9.โรยตัวที่น้ำตกตะเพินคี่น้อย สูงประมาณ 20 เมตร ท้าทายความกล้าซู่ซ่ากับน้ำตกเย็นๆ เป็นอะไรที่สนุกไปอีกรูปแบบของการผจญภัย ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง
10.งานตรุษจีนสุพรรณบุรี ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร) จังหวัดสุพรรณบุรี ชมการแสดงอันหน้าตื่นตาตื่นใจทั้งไทยและจีน ผสมผสานกันออกมาอย่างลงตัว สุดแสนประทับใจ

แพร่เชิญเที่ยวงาน"ประเพณีพื้นฮีตฮอยเป็งปุ๊ด ไหว้สาอุปคุตเจ้า"

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานแพร่ เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานแพร่ ร่วมกับเทศบาลเมืองแพร่ และวัดสระบ่อแก้ว จังหวัดแพร่ กำหนดจัดประเพณีตักบาตรพระอุปคุต ครั้งที่ 5 ในคืนวันเพ็ญพุธหรือการตักบาตรเที่ยงคืน ภายใต้ชื่องาน ประเพณีพื้นฮีตฮอยเป็งปุ๊ด ไหว้สาอุปคุตเจ้า ทั้งนี้เพื่อรื้อฟื้นประเพณีอันเก่าแก่และรักษาสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองแพร่ และกระตุ้นฐานเศรษฐกิจของจังหวัดแพร่ให้ดีขึ้น 

ประเพณีตักบาตรเป็งปุ๊คนับเป็นกิจกรรมการทำบุญตักบาตรสร้างทานบารมีในการเริ่มต้นวันใหม่ ตามความเชื่อของชาวเหนือที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันเป็นประเพณีมากว่า 400 ปี ทั้งนี้สันนิษฐานว่าชาวล้านนาได้รับการผสมผสานวัฒนธรรมมาจากชาวพม่า และชาวไทลื้อ ที่เชื่อว่าพระอุปคุตซึ่งเป็งพระอรหันต์สาวกที่มีมหิทธิฤทธิ์ สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาที่พญามารมารบกวนพิธีต่างๆ โดยขึ้นมาจากทะเลแปลงกายเป็นสามเณรน้อย ออกโปรดสัตว์ โปรดชาวเมืองก่อนรุ่งเวลาอรุณ หากบุคคลใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้วบุคคลนั้นถือว่าเป็นผู้มีบุญ จะทำให้บังเกิดสิริมงคลแก่ชีวิต เกิดความร่ำรวย ซึ่งจะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง มีโชคลาภแคล้วคลาดจากภัยต่างๆ

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวผู้สนใจ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงาม และสั่งสมทานบารมี เสริมสิริมงคล ร่วมประเพณีตักบาตรพระอุปคุตในคืนวันเพ็ญพุธ ในงาน ประเพณีฮีตฮอตเป็งปุ๊คไหว้สาอุปคุตเจ้า เย็นวันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป บริเวณวันสระบ่อแก้ว อ.เมือง จ.แพร่ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ วันสระบ่อแก้ว โทร. 054-511281

breakingnews.nationchannel

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คุมน้ำมันอยู่แค่ที่อ่าวพร้าว 'ทรายแก้ว-ไผ่'เที่ยวได้ปกติ

 Pic_360590

นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ยังคงเล่นน้ำและบริโภคอาหารทะเลในหาดอื่นๆ ของเกาะเสม็ดตามปกติ โดยไม่กังวลกับสถานการณ์ที่อ่าวพร้าว ขณะที่ผู้ประกอบการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ว่า พื้นที่อื่นๆ ยังปลอดภัย เผยต่างชาติยกเลิกทัวร์ ส.ค.ทั้งเดือน รายได้หายชัดเจน...

เมื่อวันที่ 31 มีรายงานความคืบหน้ากรณีน้ำมันรั่วกลืนชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจิตอาสาได้ร่วมกันดำเนินการจัดการคราบน้ำมันจนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในทางดีขึ้น ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว "ไทยรัฐออนไลน์" ได้ลงพื้นที่สำรวจหาดทรายแก้วและอ่าวไผ่ ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของเกาะเสม็ด พบว่า ไม่มีคราบน้ำมันแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ยังเดินทางท่องเที่ยวมาอย่างคึกคัก โดยที่อ่าวไผ่ ยังมีคนมาเล่นน้ำตามปกติ น้ำใส ไม่มีกลิ่น และคราบน้ำมันเจือปนมาในน้ำทะเล
ทั้งนี้ น.ส.สายไหม กนกวรรณบุญนาค นักท่องเที่ยวจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ไม่กังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่หาดทรายแก้วไม่มีกลิ่นน้ำมันและไม่มีคราบน้ำมันปรากฏให้เห็น ทำให้ลงเล่นน้ำได้ตามปกติ

"ตอนแรกๆ ที่ได้ยินข่าวรู้สึกกังวลบ้าง แต่เมื่อมาพบกับธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ต่างจากอ่าวพร้าวที่เห็นในภาพตามสื่อต่างๆ จึงกล้าเล่นน้ำและรับประทานอาหารตามปกติ" น.ส.สายไหม กล่าว

ส่วนนางสาวอุไร ขาน้อย นักท่องเที่ยวชาว กทม. กล่าวว่า รู้สึกกังวลตอนที่ได้ยินข่าวครั้งแรกเหมือนกัน แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับไม่เป็นเหมือนข่าว ทำให้ไม่รู้สึกกลัว หรือกังวล กล้าเล่นน้ำ เมื่อเล่นแล้วก็ไม่มีอาการแพ้ใดๆ นอกจากนี้ ยังรับประทานอาหารทะเลได้ตามปกติด้วย

ขณะที่ นายรุ่งโรจน์ โพธิ์เพชร ตัวแทนผู้ประกอบการแหลมใหญ่รีสอร์ท หาดทรายแก้ว ระบุว่า ต้องการให้ ปตท. เรียกประชุมผู้ประกอบการทั้งเกาะเสม็ด เพื่อปรึกษาหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าจะมีวิธีการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ให้กลับมาเหมือนเดิมอย่างไร เนื่องจากข่าวที่ออกไปนำเสนอเฉพาะมุมของอ่าวพร้าว ทำให้นักท่องเที่ยวแตกตื่น ทั้งที่อ่าวอื่นๆ ยังสามารถท่องเที่ยวได้อยู่ตามปกติ

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอตามข้อเท็จจริงและนำเสนอหาดทรายอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบ และยังท่องเที่ยวได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้กรุ๊ปทัวร์ชาวจีน ยกเลิกจองห้องพักของเดือน ส.ค. ทั้งหมดแล้ว ทำให้สูญเสียรายได้ชัดเจน เบื้องต้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงทำให้ยอดขายหดลงไป 70% แล้ว ส่วนการวางแผนฟื้นฟูเกาะ อยากให้ ปตท. กำหนดวันที่แน่นอนว่าจะสามารถทำให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน เพราะความเสียหายเป็นเหมือนลูกโซ่ กระทบการท่องเที่ยว ชาวประมงพื้นบ้าน และชาวบ้าน

ด้านกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ปตท. พื้นที่ระยอง นำโดย นายเดชา บุญวรรณ ผู้จัดการส่วนสื่อสารและกิจการเพื่อสังคมพื้นที่ระยอง ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบริเวณเกาะเสม็ด ตั้งแต่ด้านทิศเหนือไปจนถึงฝั่งตะวันออก โดยแบ่งทีมงานเป็นทั้งหมด สี่กลุ่ม เพื่อสอบถามถึงปัญหากับผู้ประกอบการและชาวบ้านว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพื่อนำปัญหาของผู้ประกอบการและชาวบ้าน ไปให้ PTTGC ประเมินความเสียหายและตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนออกมาตรการชดเชยให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม.

ที่มา thairath

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มัณฑาวีต์ทำแคมเปญจ้างคนเที่ยว

มัณฑาวีต์ทำแคมเปญจ้างคนเที่ยว
มัณฑาวีต์จัดเต็มการตลาดแบบปากต่อปาก ทำแคมเปญจ้างคนเที่ยว หวังกระตุ้นตลาดคนไทยไม่ชอบออกนอกบ้าน
นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กรรมการผู้จัดการ มัณฑาวีต์ทัวร์ และมัณฑาวีต์ รีสอร์ท แอนด์สปา เปิดเผยว่า จะเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปาก เจาะตลาดใหม่ ดึงคนไทยที่ไม่ค่อยท่องเที่ยว ให้ออกมาท่องเที่ยวด้วยแคมเปญ จ้างคนไปเที่ยว ที่เดียวในโลก ซึ่งเป็นแคมเปญที่บริษัทจดลิขสิทธิ์แล้ว โดยจะจัดแพ็กเกจทัวร์พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน ราคาต่ำกว่าต้นทุนขายให้คนไทย เพื่อดึงให้ไปเที่ยวก่อนและชื่นชอบอยากกลับมาเที่ยวอีกภายหลัง ซึ่งทำมาแล้ว 1 ปีกว่า และจะทำจนถึงปลายปีนี้ ขณะเดียวกันได้ขยายแคมเปญจับมือโรงแรมอีก 5 แห่งในเชียงราย เชียงใหม่ สมุย ภูเก็ต และหลีเป๊ะ เข้าร่วมแคมเปญนี้ด้วย ส่วนในอนาคตจะจับมือบริษัทต่างชาติ ทำแคมเปญนี้ดึงคนต่างชาติมาเที่ยวไทย และอาจต่อยอดดึงคนไทยไปเที่ยวต่างชาติด้วยแคมเปญเดียวกัน

ทั้งนี้ จะเข้าร่วมงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก วันที่ 15-18 ส.ค.นี้ และงานไทยเที่ยวไทย วันที่ 5-8 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยวันที่ 15-18 ส.ค. จะปิดการขายแพ็กเกจทัวร์พร้อมโรงแรมมัณฑาวีต์เองก่อน จากนั้นวันที่ 5-8 ก.ย. จะเน้นขายแพ็กเกจโรงแรมพันธมิตรด้วย พร้อมมีโปรโมชั่น จ่ายเงินให้คนละ 500 บาท สำหรับคนที่จองแพ็กเกจ งบจ่ายสูงสุดรวม 1 ล้านบาท
"แคมเปญจ้างคนไปเที่ยว เป็นแคมเปญระยะสั้นเพื่อโปรโมทโรงแรมให้เป็นที่รู้จัก ลักษณะเดียวกันสินค้าประเภทอื่นที่จะแจกสินค้าทดลอง ให้คนใช้ทดลองก่อน เมื่อติดใจ ผู้ใช้ก็จะไปหาซื้อเอง เช่นเดียวกันโรงแรม ยอมขาดทุนให้คนมาเที่ยวก่อน เมื่อมาเที่ยวแล้วชอบอนาคตก็จะกลับมาซ้ำ ส่วนสาเหตุที่เริ่มขยายพันธมิตรโรงแรมอื่นด้วย เพราะหวังเพิ่มฐานลูกค้าของมัณฑาวีต์เอง จากปัจจุบันมี 4 หมื่นราย หลังจากนี้จะเร่งขยายพันธมิตรโรงแรมให้ครอบคลุม 10 จังหวัดปีนี้  และเพิ่มเป็น 20 จังหวัดปีหน้า และหากเป็นไปได้ก็จะต่อยอดหารายได้จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้โรงแรมอื่นผ่านการเข้าร่วมแคมเปญนี้ด้วย" นายประสิทธิ์ กล่าว
สำหรับแคมเปญนี้ยอมรับว่า มีผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งไม่พอใจ เพราะมองว่าไปตัดราคาตลาดแย่งลูกค้า แต่โดยส่วนตัวอยากให้มองว่าเป็นรูปแบบการทำตลาดแบบหนึ่ง ซึ่งได้ผลดี เมื่อเทียบกับการทุ่มงบมากๆ โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ซึ่งบริษัทก็คงจะทำแคมเปญสำหรับมัณฑาวีต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ถึงปีนี้เท่านั้น เพราะชื่อโรงแรมเริ่มติดตลาดแล้ว และอัตราเข้าพักสูงถึง 80% ทุกเดือน มีกลุ่มที่เคยเข้าร่วมแคมเปญกลับมาใช้บริการโรงแรมซ้ำ 60% และมีเริ่มมีกำไรแล้ว จากการใช้จ่ายเพิ่มเติมบริการอื่นๆ ของทัวร์และโรงแรม ส่วนปีหน้าก็จะเริ่มใช้ราคาปกติแล้ว แต่จะยังคงแคมเปญนี้ไว้สร้างความจดจำในแบรนด์ โดยไปจัดแคมเปญกับโรงแรมพันธมิตรที่ต้องการให้มีคนรู้จักมากขึ้นแทน
ที่มา posttoday

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชมหุ่นไดโนเสาร์เสมือนจริงตัวแรกของไทย งานเทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว ประจำปี 56




จ.หนองบัวลำภู มีการจัดงานโชว์ของดีมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัด จึงเตรียมจัดงานใหญ่ โดยนำหุ่นไดโนเสาร์ เสมือนจริงตัวแรกของประเทศไทยมาจัดแสดงให้ชมภายในงานเทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว ประจำปี 56

นายสมบัติ ไชยรส นายก อบต.โนนทัน ในฐานะดูแลรับผิดชอบการจัดงานนี้ กล่าวว่า จ.หนองบัวลำภู ได้พัฒนาพื้นที่บริเวณมีการขุดพบซากสัตว์ดึกดำบรรพ์เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปีและไดโนเสาร์ ซึ่งตั้งอยู่บ้านห้วยเดื่อ ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู จนกลายเป็นเอกลักษณ์และมรดกของจังหวัด โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวของซากฟอสซิลหอยหินโบราณ 150 ล้านปี ที่อยู่ในยุคจูราสสิคตอนปลาย อายุประมาณกว่า 145-157 ล้านปี รวมถึงการจัดแสดงหอยหินสองกาบที่ค้นพบบริเวณบ้านห้วยเดื่อ ประกอบด้วยหอยหินสองกาบที่มีขนาดแตกต่างกัน การจัดแสดงนิทรรศการความรู้เรื่องราวของ จ.หนองบัวลำภู มีการแสดงข้อมูล รูปภาพสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งสถานที่สำคัญต่าง ๆ แบ่งแยกตามอำเภอ

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงหุ่นจำลองสภาพภูมิศาสตร์ของ จ.หนองบัวลำภู ที่รายล้อมไปด้วยภูเขา แสดงเส้นทางการคมนาคม เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ โดยภายในมีห้องโถงจัดแสดงเป็นโซน อาทิ การท่องจักรวาล โลกแหล่งกำเนิดชีวิตทั้งพืชและมนุษย์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ที่สำคัญยังมีหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัส เรกซ์ ไดโนเสาร์ในตระกูล ที-เรกซ์ ขนาดเท่าตัวจริงยาวกว่า 7 เมตร สูง 4 เมตร น้ำหนักถึง 1.7 ตัน เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้สามารถขยับส่วนหัว อ้าปาก ขยับตา ขยับขาหน้า ขยับลำตัวและหาง พร้อมทั้งเสียงร้องคำราม และที่ผ่านมาในประเทศไทยยังไม่มีหุ่นไดโนเสาร์ที่ขยับร่างกายได้เหมือนตัวนี้

ด้าน น.ส.ทัศณีญ์ ชมภูวิเศษ ปลัด อบจ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ภาครัฐและเอกชน ได้ผนึกกำลังร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวตำบลโนนทัน ร่วมกันจัดงานเทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว ประจำปี 56 ระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ขาว พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแห่งวัดถ้ำกลองเพล เกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย ถึงแม้ว่าหลวงปู่ขาวจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่คำสั่งสอนของหลวงปู่ขาวหาได้สูญสิ้นไปด้วยไม่ ปัจจุบันได้มีการสร้างหุ่นขี้ผึ้งจำลองของหลวงปู่ขาวประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพลบนยอดเขาสูง ซึ่งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การชมขบวนแห่สินค้าการเกษตร 10 หมู่บ้าน การจำหน่ายสินค้าโอทอป ของ จ.หนองบัวลำภู และร่วมเชียร์การแข่งขันกินลำไย การประกวดลำไยพันธุ์ดี การประกวดธิดาลำไย นมัสการพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล เกจิอาจารย์ชื่อดังที่มรณภาพไปร่วม 20 ปี การประกวดอาหารสะอาดรสชาติอร่อย การประกวดมิสฟอสซิล(สาวประเภทสอง) การจำหน่ายลำไยราคาถูกจากเกษตรกรชาวสวนโดยตรง นอกจากนั้นจุดเด่นภายในงานยังได้มีการแสดงหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ ไทแรนโนซอรัส เรกซ์ ทำการเปิดแสดงให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม

จึงขอเชิญชวนประชาชนให้มาเที่ยวชมงานเทศกาลเที่ยวหอยหิน กินลำไย ไหว้หลวงปู่ขาว ประจำปี 56 ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวแน่นอน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ค้นพบใน จ.หนองบัวลำภู ในบรรยากาศที่หาชมได้ยากยิ่ง งานนี้ไม่ควรพลาด...
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์
ที่มา dailynews

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แอร์เอเชียคลอดเส้นทางบินดอนเมือง-เสียมราฐ

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ‪้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ ดอนเมือง-เสียมราฐ กัมพูชา ไป-กลับ 1 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้มีเที่ยวบินเชื่อมประเทศอินโดจีน 70 เที่ยวบิน หรือ 1 ใน 4 ของเที่ยวบินทั้งหมดที่มีกว่า 250 เที่ยวบิน หากเส้นทางนี้กระแสตอบรับดีก็จะเพิ่มเที่ยวบินอีก
ทั้งนี้ คาดว่า 3 เดือนแรกหลังเปิดเส้นทางบินจะมีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (โหลด แฟกเตอร์) 80-82% เพราะเสียมราฐเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความต้องการไปมากอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาหากเดินทางโดยรถจากไทยไปใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ขณะที่การเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง แต่เที่ยวบินที่มีอยู่เดิมราคาค่าตั๋วโดยสารสูง ทำให้คนไทยยังไปไม่มาก เมื่อมีไทยแอร์เอเชียไปเปิดเส้นทางบินนี้ ซึ่งถือเป็นโลว์คอสต์แอร์ไลน์รายแรกที่เข้าไป น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวได้ปีละ 3-5 แสนคน หรือทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเสียมราฐเพิ่ม 50-100%
ทั้งนี้ ได้จัดโปรโมชั่นจองตํ๋วเครื่องบิน 79 บาท รวมภาษีสนามบิน ภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วจะอยู่ที่ 999 บาท สำหรับเส้นทางบินใหม่ ดอนเมือง-เสียมราฐ กรณีจองตั๋วโดยสารตั้งแต่วันนี้ถึคง 24 ก.ค.นี้ เพื่อเดินทางตั้งแต่ 1 ต.ค.2556- 5ส.ค, 2557 โดยมีโควต้าตั๋วโปรโมชั่น 8,000 ที่นั่ง คาดว่าระยะเวลาโปรโมชั่นเพียง 5 วัน ก็มีผู้จองเต็มโควต้าแน่นอน เพราะปกติเวลาไทยแอร์เอเชียมีโปรโมชั่นตั๋วราคาถูกออกมา ก็จะมียอดจองเต็มโควต้าทุกครั้ง
ที่มา posttoday

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดึงดูดคนรุ่นใหม่เยี่ยมชมศานสถานด้วยแอป “เที่ยววัด” โดย ททท.หาดใหญ่


      
       ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ททท.หาดใหญ่ เกาะกระแสสมาร์ทโฟนเอาใจนักท่องเที่ยวยุคใหม่ คลอดแอปพลิเคชัน “เที่ยววัด” บรรจุข้อมูลการเดินทาง และประวัติความเป็นมา สร้างสีสันดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เยี่ยมชมศานสถานมากยิ่งขึ้น
      
       การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง เกาะกระแสสมาร์ทโฟน เอาใจนักท่องเที่ยวยุคใหม่ด้วยการคลอดแอปพลิเคชัน “เที่ยววัด” อำนวยความสะดวกเรื่องข้อมูลการท่องเที่ยว ทั้งประวัติความเป็นมา และเส้นทาง มุ่งสร้างสีสันดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เยี่ยมชมศานสถานมากยิ่งขึ้น
     
       นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เนื่องจาก ททท.สำนักงานหาดใหญ่ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวใน จ.สงขลา และพัทลุง ที่มีศาสนสถานจำนวนมาก จึงอยากสร้างแหล่งข้อมูลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และถือเป็นการเพิ่มสีสันในการท่องเที่ยวให้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของการสร้างแอปพลิเคชันรองรับนักท่องเที่ยวที่ใช้สมาร์ทโฟน ทั้งระบบแอนดรอยด์ และ ios 
      
       “สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้น มองว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่เที่ยววัดไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สูงอายุอย่างเดียว การจัดทำแอปพลิเคชันดังกล่าวจึงถือเป็นการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวให้มีหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งกลุ่มวัยรุ่น หรือแม้กระทั่งการมาท่องเที่ยวแบบครอบครัว” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานหาดใหญ่กล่าว
      
       สำหรับแอปพลิเคชัน “เที่ยววัด” ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 5 หมวดย่อย คือ
     
       1.ไหว้พระ สักการะสิ่งศักสิทธิ์ : แนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่ ททท.สำนักงานหาดใหญ่ ได้คัดเลือกมาแล้วจำนวน 30 วัด โดยเป็นวัดใน จ.สงขลา 15 วัด และวัดใน จ.พัทลุง อีก 15 วัด พร้อมภาพถ่าย และรายละเอียดเส้นทาง
     
       2.ตามรอยแห่งศรัทธา หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด : จากประวัติศาสตร์สู่ข้อมูลที่มีชีวิต เยือนสถานที่สำคัญตามรอยหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เช่น สถานที่ฝังรก สถานที่เล่าเรียนศึกษาธรรมะ สถานที่ปฏิบัติธรรม สถานที่ละสังขาร เป็นต้น
     
       3.12 เดือน ร่วมงานบุญมหามงคล : แนะนำประเพณีสำคัญประจำวัดต่างๆ ตลอดทั้ง 12 เดือน
     
       4.1 บารมี 9 มหามงคล : เส้นทางนมัสการ 5 พระนอน 4 พระนั่ง 1 พระยืน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.สงขลา และพัทลุง ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
     
       5.สมุดเดินทาง : เพิ่มลูกเล่นเอาใจนักท่องเที่ยวด้วยพาสปอร์ตออนไลน์ ให้นักท่องเที่ยวได้เช็กอินเมื่อไปเยือนวัดต่างๆ โดยนักท่องเที่ยว 10,000 คนแรกที่เช็กอินครบถ้วน จะได้รับรางวัลจาก ททท. สำนักงานหาดใหญ่
     
       ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เที่ยววัด” ได้แล้วตั้งแต่บัดนนี้ โดยค้นหาคำว่า “เที่ยววัด” ทั้งในระบบแอนดรอยด์ และ ios
      
      
      

ที่มา manager

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เอมิเรตส์เพิ่มเที่ยวบิน เป็น 6 เที่ยวบินทุกวัน ดูไบ-กรุงเทพฯ



สายการบินเอมิเรตส์เพิ่มเที่ยวบินตรง ดูไบ-กรุงเทพฯ เป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 56 เป็นต้นไป

มร. แบร์รี่ บราวน์ รองประธานอาวุโส การปฏิบัติการพานิชย์ ภูมิภาคตะวันออก สายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า “สายการบินเอมิเรตส์จะเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงสู่กรุงเทพฯทุกวัน เป็นเที่ยวบินที่หก เที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นใหม่ EK370 จะออกเดินทางจากดูไบเวลา 15.20 น. และเดินทางถึงกรุงเทพ 00.20 น. วันรุ่งขึ้น ส่วนขาออกจากกรุงเทพ EK371 ออกเดินทาง 01.55 น. และถึงดูไบเวลา 05.45 น. นอกจากนั้นยังเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-ดูไบที่ให้บริการด้วยเครื่อง A380 เป็น 2 เที่ยวต่อวัน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยต่อสายการบินฯ”

“เราเพิ่มการบริการต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเส้นทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากเอมิเรตส์จะเปิดบริการเที่ยวบินที่หกทุกวันสู่กรุงเทพฯแล้ว เรายังเพิ่มเที่ยวบินจากดูไบสู่ฮ่องกงเป็นสี่เที่ยวบินต่อวันตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม ศกนี้ และยังมีการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงประจำทุกวันสู่ คลาร์ก ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้อีกด้วย” มร. บราวน์ กล่าวเพิ่ม

ที่มา manager

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ด่านซ้าย จัดงาน'ผีตาโขน'ปี56

นทท.นับหมื่นแห่เที่ยวงาน 'บุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนด่านซ้าย' ปี56 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค.นี้ คาดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท


                       11 ก.ค.56 นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณี "บุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน" ประจำปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม ณ หน้าที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย วัดโพนชัย และถนนแก้วอาสา อ.ด่านซ้าย จ.เลย มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานนับหมื่นคน
                       งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน เป็นประเพณีที่รวมเอา "งานบุญพระเวส" (ฮีตเดือนสี่) และ "งานบุญบั้งไฟ" (ฮีตเดือนหก) เข้าไว้เป็นงานบุญเดียวกัน นักท่องเที่ยวจะได้ชมขบวนแห่ "ผีตาโขน" ที่สร้างสีสันตื่นตา ตื่นใจ เต้นตามท่วงทำนองจังหวะดนตรีที่เร้าใจ แสดงเอกลักษณ์ของหน้ากากที่โดดเด่นของศิลปะการแต่งแต้มลวดลาย เน้นสีสันที่สดใสงดงาม โดยในปีนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดเลย ได้จัดกิจกรรม "ถนนผีฯ...คนเดิน (Phi Ta Khon Road)" เพื่อนำเสนอศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของชุมชนแห่งนี้
                       กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ พิธีเบิกพระอุปคุต พิธีบายศรีสู่ขวัญเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียม ขบวนแห่ผีตาโขน ขบวนแห่เจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียม และคณะพ่อแสน พิธีบายศรีสู่ขวัญพระเวส ขบวนพิธีอัญเชิญพระเวสสันดรเข้าเมือง พิธีจุดบั้งไฟบูชาพญาแถน พิธีทิ้งหน้ากากผีตาโขน พิธีเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ พร้อมด้วยการแสดงบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมือง งานแฮนด์เมด งานหัตถกรรม งานศิลปะ และงานไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ จากชาวด่านซ้าย และชาวเมืองเลย และการแสดงดนตรีและแสดงโชว์ต่างๆ จากกลุ่มเยาวชน มหกรรมศูนย์อาหารสะอาดรสชาติอร่อย และกิจกรรม "กินอยู่ อย่างคนด่านซ้าย" จำหน่ายอาหารพื้นบ้านของชาวอำเภอด่านซ้าย
                       Jelka Gunther นักท่องเที่ยวและนักศึกษาชาวเยอรมัน เปิดเผยว่า มาเที่ยวเป็นครั้งแรกเมื่อทราบข่าวมาหลายปี มีโอกาสมาเที่ยวและมาศึกษาที่ประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว ประทับใจมากกับวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นซึ่งต่างประเทศไม่มีให้เห็นอย่างนี้ ตนเห็นว่าไม่มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนเช่น อวัยวะเพศ ก็ถือว่าเป็นเรืองปกติสำหรับประเพณีที่มีมาตั้งแต่โบราณ ขอให้อนุรักษ์ไว้ก็พอแล้ว ถึงอย่างไรก็ขอให้พัฒนา ปรับในด้านภาษาเกี่ยวกับผีตาโขนหรือภาษาสากลให้มากขึ้นกว่านี้ เพื่อรองรับกับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย มีโอกาสก็จะเดินทางมาอีกแน่นอนพร้อมกับเพื่อนๆ และญาติ
                       MR .Al Caudullo ผู้สื่อข่าวทีวี 3 มิติชาวสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ดีใจมากกับการที่ได้มีโอกาสมาเที่ยว มาทำข่าวประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่น"บุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน" อ.ด่านซ้าย จ.เลย สิ่งที่น่าจะปรับปรุงน่าจะเป็นกำหนดวันจัดงานน่าจะให้สอดคล้องกับนักท่องเที่ยว เช่น จัดในวันหยุด ติดต่อกัน เป็นต้น และแจ้ง ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้ายาวนานหน่อย ด้านอื่นๆ นั้น ไม่มีอะไรแก้ไขเป็นเรื่องของประเพณีแต่ละท้องถิ่น แต่ละประเทศที่อาจจะไม่เหมือนกัน รักษาเอกลักษณ์ของตนเองไว้ให้ยาวนานที่สุดก็พอแล้วและน่าจะจัดระเบียบการมุงดูการล้อมขบวนแห่น่าจะสวยงามตามากกว่านี้ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่จะห่ามปวงชนและนักท่องเที่ยวนับหมื่น
                       ด้านนางสาวยุพา ปานรอด ผอ.ททท.สำนักงาน เลย กล่าวว่า อำเภอด่านซ้ายกำหนดจัดงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2556 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย กำหนดกิจกรรม ถนนผี...คนเดิน ขึ้น ในวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2556 เวลา 17.00 - 23.00 น. ที่บริเวณสวนสาธารณ เทศบาลตำบลด่านซ้าย กิจกรรมประกอบด้วยการแสดงงานศิลปะ งานหัตถกรรม และงานไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ จากชาวด่านซ้ายและชาวเมืองเลย การแสดงดนตรีและการแสดงต่างๆ จากกลุ่มเยาวชน กิจกรรมประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ถือเป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่และสำคัญกิจกรรมของจังหวัดเลย ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จังหวัดเลยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเชียงคาน เกือบ 2,000 ห้อง ซึ่งเพียงพอกับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ต้องการที่พัก นอกจากนั้นยังพักตามโฮมสเตย์ วัดและบ้านญาติ ในปี 2555 สถิติยอดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในจังหวัดเลย ประมาณกว่า 50,000 คน นำรายได้มายังพื้นที่ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

ที่มา komchadluek

ทำบุญไหว้พระ 10 วัดยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด ในวันเข้าพรรษา 2556

วันเข้าพรรษา 2556

1.วัดโสธรวรารามวรวิหาร ไหว้ "หลวงพ่อโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง ตามประวัติเล่าว่า มีปาฏิหาริย์ลอยน้ำมาและมีผู้อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้
2.วัดพนัญเชิง ไหว้ "หลวงพ่อโต"พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่มีอายุมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตักกว้าง 20.17 เมตร และสูงจากชายพระชงฆ์ถึงพระรัศมี 19 เมตร ชาวจีนนิยมเรียกว่า ซำปอกง
3.วัดบางพลีใหญ่ จ. สมุทรปราการ ไหว้ "หลวงพ่อโต " พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมืองสมุทรปราการและพุทธศาสนิกชนทั่วไป
4.วัดปากน้ำโจ้โล้ ชมพระอุโบสถหนึ่งเดียวในประเทศที่ทาสีทองทั้งหลังและยังสามารถลอดใต้ฐานพระประธานได้เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ  อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
5.วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี คือ แลนด์มาร์กการถ่ายภาพยนตร์และละครพื้นบ้านไทยในฉากปราสาทราชวัง ลองมาค้นหาว่าในละครที่ได้ชมมีฉากใดบ้างที่ถ่ายทำ ณ วัดแห่งนี้
6.วัดโกรกกราก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อปู่ พระพุทธรูปใส่แว่นตาดำ ซึ่งมีมูลเหตุจากความเชื่อและศรัทธาของชาวบ้านต่างกันไป
7.วัดม่วง จ.อ่างทอง ไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ และสิ่งศักสิทธิ์ภายในวัดมากมาย
8.วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง ไหว้พระนอนองค์ใหญ่อีก ทั้งชมพระอุโบสถ 3 ชั้น มีลิฟท์ให้บริการด้วย
9. วัดบางแคน้อย มหัศจรรย์กับโบสถ์ไม้แกะสลักพื้นโบสถ์สร้างด้วยไม้ตะเคียนเพียง 7 แผ่น ณ วัดบางแคน้อย อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
10.วัดสมานรัตนาราม ชมองค์พระพิฆเนศวรสีชมพูปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ วัดสมานรัตนาราม ริมแม่น้ำบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา


ที่มา sanook

กิจกรรม "เที่ยว 2 เมืองสมุทร สุดปลายฟ้า แห่งเมืองพระราชา"

บรรยากาศของหน้าฝน หลายคนอยากพักผ่อนและอีกหลายคนก็กำลังคิดหาสถานที่ท่องเที่ยวสบายๆ บรรยากาศหน้าฝนนี้ จึงมีเส้นทางการท่องเที่ยวอีกหนึ่งเส้นทางเพื่อมานำเสนอให้เป็นทางเลือกกับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยากชมความสดชื่นในฤดูฝนนี้
กิจกรรมนี้ มีชื่อว่า " เที่ยว 2 เมืองสมุทร สุดปลายฟ้า แห่งเมืองพระราชา " 2 สมุทรในที่นี้คือจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม อีกทั้งเมืองแห่งพระราชาก็คือจังหวัดราชบุรีทริปนี้เราออกสตาร์ทไปยัง  อุทยานพระโพธิ์สัตว์กวนอิมต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเพิ่มความเป็นสิริมงคล ให้เดินทางปลอดภัยและสนุกตลอดการเดินทาง
และหากเดินมาทางตรงข้ามประมาณ 300 เมตรก็จะได้สัมผัสกับ unseen ของจังหวัดสมุทรสารครเลยทีเดียว นั้นก็คือพระรูปนักบุญอันนา ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย หมุนได้ 360 องศา ณ วัดนักบุญอันนา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เพียงแค่หยอดเหรียญ 10 บาทลงไปก้จะหมุนอวดความสง่างามให้ท่านได้เห็นกันแล้ว
หลังจากนั้นออกเดินทางไปยังจังหวัดสมุทรที่ 2 ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็มาถึงจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ วัดบางกุ้งอีกหนึ่ง unseen ขึ้นชื่อของประเทศไทย สักการะหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในโบสถ์ที่ถูกปรกคลุมไปด้วยต้นกร่างทั้งองค์ หรือเที่เรียกกันว่า " โบสถ์ปรกโพธิ์ "
สมุทรสงครามยังมีสถานที่ที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเดินทางไม่ไกลจากที่นี่นักนั่นคือ " อาสนวิหารพระแม่บังเกิด " ต.บางนกแขวก จ.สมุทรสงคราม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคริสตชนที่อาศัยอยู่โดยรอบเป็นสถาปัตยกรรมกอทิกที่สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื้อมจากอ้อยใสสีดำ ภายในประดับด้วยกระจกสีจากประเทศฝรั่งเศสสวยงามเป็นอย่างมาก
เที่ยวถ่ายภาพกับสถานที่อันสวยงามกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าไปไปยังเมืองแห่งพระราชา อ.สวนผึ้ง ในขณะเดินทางเพียงแค่เริ่มเห็นป้ายอำเภอนี้ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นสบายและความสดชื่นแล้ว พวกเราแวะไปซื้อหญ้าให้อาหารและถ่ายภาพคู่กับแกะท่ามกลางหุบเขาที่ " เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม "
ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า เราก็รีบกลับเข้าที่พัก " สวนผึ้งคันทรีฮิลล์ รีสอร์ท " นั่งชมพระอาทิตย์ลับหายไปจากท้องฟ้าโดยมีภูเขาเป็นฉากหน้าคอยบดบัง ต้องไม่ควรพลาดการบันทึกภาพแสงสุดท้ายของวันเป็นอันขาด
ตื่นเช้าจิบการแฟและอาหารเช้าอร่อยๆ ขากลับก็เดินทางกลับทางเดิมจะได้แวะซื้อของฝากกันที่ " ตลาดน้ำอัมพวา " ตลาดย้อนยุคขึ้นชื่อคุ้นหูใครหลายๆ คน ถ้าหากนึกถึงตลาดน้ำย้อนยุคใกล้กรุงหรือการล่องเรือออกไปชมหิ่งห้อย ที่นี่มีอาหารทะเลอร่อยๆ และของที่ระลึกที่เป็นเอกลักษณ์มากมายให้ได้ซื้อกลับไปฝากกันได้ครับ
ทริปนี้เป็นการเดินทางแบบสบายๆ ใช้เวลาไม่มาก หากยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ใดผมก็หวังว่าทริปนี้อาจจะเป็นทางเลือกดีๆ ให้เพื่อนๆ ได้ออกไปชื่นชมความสวยงามของประเทศไทยกันนะครับ
ขอขอบคุณ : นิตยสารโฟโต้เทค
เรื่องและภาพ : ทศพร สุภาพ
ที่มา sanook

10 ภูที่สวยน่าเที่ยวที่สุด ในเมืองไทย

1.ภูกระดึง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเสมอมา ด้วยทัศนียภาพที่งดงามชวนเที่ยว ไฮไลต์ที่ขึ้นภูกระดึงมาแล้วจะต้องไม่พลาด "ผานกแอ่น" สถานที่ชมพระอาทิตย์ยามทอแสงแรกของวัน และ "ผาหล่มสัก" สัญลักษณ์ของภูกระดึงที่มีต้นสนแผ่กิ่งก้านอยู่ริมชะง่อนหินยื่นออกไป หลายๆ คนถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกและมาชมพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่ 
2.ภูเรือ มีรูปพรรณสันฐานเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูง โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกละอองขาวและป่าอันอุดมสมบูรณ์ มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเล  มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าแข็งตัวกลายเป็น "แม่คะนิ้ง" 
3.ภูทับเบิก ภูทับเบิกเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ (1,768 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง) แม้จะเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนที่ลุ่มหลงความหนาวได้ไม่นานนัก ทว่าทิวเขาเทือกนี้ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตติดชาร์ท UNSEEN THAILAND ได้อย่างรวดเร็ว
4.ภูหินร่องกล้า แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางอุดมการณ์ของชนชาติไทยที่สำคัญในอดีต  มีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ถือเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย จึงไม่แปลกที่ภูหินร่องกล้าจะประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามอลังการมากมาย 
5.ภูทอก ( บึงกาฬ )  หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เหมาะแก่การบำเพ็ญธรรมของภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีความเงียบสงบ สวยงามด้วยธรรมชาติแวดล้อมแฝงไว้ซึ่งเสน่ห์ทางธรรม โดยมี "พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ" เป็นผู้ก่อตั้ง
6. ภูทอก( เลย ) ใครไปเที่ยวเมืองเชียงคานในฤดูหนาว อย่าพลาดขึ้นไปชมทะเลหมอกบนภูทอกซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ด้วยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง มีความชื้นสูง ในตอนเช้าจึงเกิดทะเลหมอกขั้นหนาแน่นและกินเวลาหลายชั่วโมง
7. ภูสวนทราย  อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายมีสภาพเป็นขุนเขาสูงสลับซับซ้อน และผืนป่าดิบชื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวจัดจึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาวเย็น ด้วยการกางเต็นท์นอนชมดาวกันทุกปี
8. ภูผาเทิบ  มีกลุ่มหินรูปทรงหลายแบบวางซ้อนทับกันคล้ายกับเพิงผาที่กันแดดกันลมได้ ซึ่งภาษาท้องถิ่นเรียกลักษณะเช่นนี้ว่า "เทิบ" และมีดอกไม้ผลัดเปลี่ยนกันออกดอกตามฤดูกาล เพิ่มความงามให้กับภูผาเทิบอีกมาก ซึ่งมีทั้งดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ตามซอกหินผา เช่น เอนอ้า เทียนหิน หรือดุสิตา และดอกกล้วยไม้ประเภทช้างน้าว ตาลเหลือง เป็นต้น
9. ภูหลวง  ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี ตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง ฤดูกาลบนภูหลวงมี 3 ฤดูเหมือนพื้นราบแต่ระดับอุณหภูมิต่างกัน
10. ภูเวียง เมื่อพูดถึงนักท่องเที่ยวก็ต้องนึกถึงไดโนเสาร์ เพราะนักธรณีวิทยาได้ค้นพบซากกระดูกชิ้นหนึ่งเข้าและเมื่อส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศสวิจัยผลปรากฏออกมาว่าเป็นกระดูกหัวเข่าข้างซ้ายของไดโนเสาร์ จากนั้นนักสำรวจก็ได้ทำการขุดค้นกันอย่างจริงจังเรื่อยมากระทั่งปัจจุบัน 
ที่มา sanook